คดีมโนสาเร่

คดีมโนสาเร่ หมายถึง คดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเอาทรัพย์สินจำนวนไม่มาก หรือคดีฟ้องขับไล่ที่มีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ ราคาเล็กน้อย ถือเป็นคดีที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน การพิจารณาคดีจะเป็นไปโดยรวบรัดเพื่อความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและยุติธรรม

คดีมโนสาเร่ คือ

1. คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ไม่เกิน 300,000 บาท

2. คดีฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์ อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้อง ไม่เกินเดือนละ 30,000 บาท

 

คดีมโนสาเร่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แต่ค่าขึ้นศาลรวมกันแล้วไม่เกิน 1,000 บาท

ค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกานั้น ผู้อุทธรณ์หรือผู้ฎีกาเสียตามจำนวนทุนทรัพย์ หรือราคาทรัพย์สินที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา แล้วแต่กรณี

 

โจทก์อาจยื่นคำฟ้องเป็นหนังสือหรือมาแถลงข้อหาด้วยวาจาต่อศาลก็ได้ และจำเลยจะยื่นคำให้การเป็นหนังสือหรือจะให้การด้วยวาจาก็ได้

 

วิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่

ศาลมีอำนาจที่จะออกคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายนี้หรือตามที่ศาลได้กำหนดไว้ หรือระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งอันกำหนดไว้ในกฎหมายอื่น เพื่อให้ดำเนินหรือมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ก่อนสิ้นระยะเวลานั้นได้ เมื่อมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องแล้ว ศาลจะกำหนดวันนัดพิจารณาโดยเร็วและออกหมายเรียกไปยังจำเลย ให้จำเลยมาศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การ และสืบพยานในวันเดียวกัน และสั่งให้โจทก์มาศาลในวันนัดพิจารณานั้นด้วย

ในวันนัดพิจารณา เมื่อโจทก์และจำเลยมาพร้อมกันแล้ว ศาลจะต้องไกล่เกลี่ยให้คู่ความได้ตกลงกันหรือประนีประนอมยอมความกันในข้อที่พิพาทนั้นก่อนถ้าไม่อาจตกลงกันหรือไม่อาจประนีประนอมยอมความกันได้ และจำเลยยังไม่ได้ยื่นคำให้การ เป็นหน้าที่ศาลที่จะต้องสอบถามคำให้การของจำเลย

ถ้าจำเลยไม่ยื่นคำให้การ ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดโดยนำมาตรา 198 ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้สืบพยาน ก็ให้ศาลดำเนินการต่อไปตามมาตรา 193 ตรี มาตรา 193 จัตวา และมาตรา 193 เบญจ

เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ มาตรา 193 ว. 4 และมาตรา 193 ทวิ ให้นำมาตรา 198 ทวิ มาใช้บังคับโจทก์จึงไม่ต้องยื่นคำร้องขอชนะคดีโดยขาดนัด ตามมาตรา 198 อย่างคดีแพ่งสามัญ

 

ในคดีมโนสาเร่ เมื่อโจทก์ได้ทราบคำสั่งให้มาศาลแล้ว ไม่มาในวันนัดพิจารณาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดี ถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ศาลต้องมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ

จะถือว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณามาตรา 202 ไม่ได้ และจะยกฟ้องตามมาตรา 198 ทวิ ว.5 มาใช้บังคับไม่ได้ ไม่ว่าจำเลยจะมาศาลหรือไม่ก็ตาม เพราะในคดีมโนสาเร่ กฎหมายได้มีบทบัญญัติไว้โดยเฉพาะอยู่แล้ว

 

เมื่อจำเลยได้รับหมายเรียกให้มาศาลแล้วไม่มาในวันนัดพิจารณาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดี ถ้าจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การไว้ ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยนำมาตรา 198 ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ถ้าจำเลยได้ยื่นคำให้การไว้ก่อนหรือในวันนัดดังกล่าว ถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา และให้บังคับตามมาตรา 204 มาตรา 205 มาตรา 206 และมาตรา 207 และไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ถ้าศาลมีคำสั่ง ให้สืบพยานก็ให้ศาลดำเนินการต่อไปตามมาตรา 193 ตรี มาตรา 193 จัตวา และมาตรา 193 เบญจ

 

ศาลมีอำนาจเรียกพยานหลักฐานมาสืบได้เองตามที่เห็นสมควร ในการสืบพยาน ไม่ว่าจะเป็นพยานที่คู่ความฝ่ายใดอ้างหรือที่ศาลเรียกมาเอง ศาลจะเป็นผู้ซักถามพยานก่อน เสร็จแล้วจึงให้ตัวความหรือทนายความซักถามเพิ่มเติม

ในคดีมโนสาเร่นั้น ศาลมีอำนาจออกคำสั่งหรือคำพิพากษาด้วยวาจาได้